ทักษะที่จำเป็นสำหรับนักแปลภาษา แปลเอกสาร

ทักษะที่จำเป็นสำหรับนักแปลภาษา แปลเอกสาร

สิ่งที่นักแปลภาษา แปลเอกสาร มืออาชีพต้องมี

 ศูนย์แปลเอกสาร

การเป็นนักแปลมืออาชีพที่ดี นอกจากจะมีความเชี่ยวชาญในการสื่อสารทั้งการเขียนและการพูดในภาษาที่ตนเองแปลแล้ว ยังต้องมีทักษะอีกหลายประการที่จะทำให้ก้าวหน้าในชีวิตการงานและมีลูกค้าอยู่ตลอดเวลา

  1. การเขียน
    โดยธรรมชาตินักแปลจะต้องสามารถสื่อสารออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรได้อย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนักแปลกำลังให้บริการแปลเอกสารเป็นภาษาต่างประเทศต่าง ๆ สิ่งที่ควรคำนึงมีดังนี้

    • ทักษะการเขียนตามหลักไวยากรณ์ของภาษาต่างประเทศภาษาต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ทำให้งานบริการแปลภาษาถูกต้องตามหลักการของภาษาต่าง ๆ

    • เครื่องหมายวรรคตอน แต่ละภาษามีการใช้เครื่องหมายวรรคตอนแตกต่างกันไป ดังนั้นนักแปลจึงควรคุ้นเคยกับการใช้เครื่องหมายวรรคตอนในภาษาต้นฉบับและภาษาที่แปล

    • สไตล์การเขียน โดยพิจารณาจากรูปแบบการเขียน ได้แก่ การพรรณนา การโน้มน้าวใจ การบรรยาย และการโต้แย้ง ที่เหมาะสมกับงานแปลแต่ละชิ้น

  2. การสื่อสาร
    นักแปลต้องสามารถสื่อสารความคิดจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่งได้ดีและถูกต้อง ดังนั้นทักษะการสื่อสารจึงมีความสำคัญสำหรับผู้แปล

  3. การค้นคว้าข้อมูล
    นักแปลส่วนใหญ่ต้องใช้ทักษะการค้นคว้าข้อมูลที่แข็ง เพื่อเรียนรู้ในหลักเกณฑ์การแปลของภาษาต่าง ๆ ทักษะการค้นคว้าสามารถนำไปสู่การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องสำหรับนักแปล

  4. การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยแปล (CAT)
    มีโปรแกรม CAT หลายโปรแกรมที่นักแปลควรใช้ เพื่อช่วยในการปรับปรุงงานแปล ซอฟต์แวร์ที่นักแปลนิยมใช้ คือ

    • ซอฟต์แวร์เครื่องมือค้นหาภาษา (Language Search Engine Software) ซอฟต์แวร์นี้ทำงานเหมือนกับเสิร์ชเอนจิน แต่แทนที่จะค้นหาทางอินเทอร์เน็ตแต่ซอฟต์แวร์นี้จะค้นหาข้อความที่แปลแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อค้นหาข้อความที่ตรงกับเอกสารต้นฉบับ นักแปลสามารถใช้ซอฟต์แวร์นี้เพื่อช่วยแปลงานเอกสารได้

    • ซอฟต์แวร์การจัดการคำศัพท์ (Terminology Management Software) ซอฟต์แวร์นี้เก็บคำศัพท์ไว้ในฐานข้อมูล เพื่อให้นักแปลเข้าถึงได้ในขณะที่แปลข้อความและเสียงพูด

    • ซอฟต์แวร์หน่วยความจำการแปล (Translation Memory Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยทำให้กระบวนการแปลเป็นไปโดยอัตโนมัติ โดยซอฟต์แวร์หน่วยความจำการแปลจะเก็บส่วนที่จับคู่ข้อความและการแปลไว้ในหน่วยความจำการแปล

    • ซอฟต์แวร์บริการแปลภาษาแบบโต้ตอบ (Interactive Machine Translation Software) ซึ่งเป็นเครื่องมืออัตโนมัติอีกเครื่องมือหนึ่งสำหรับนักแปลที่สามารถคาดเดาความหมายของข้อความในภาษาหนึ่งและแปลเป็นภาษาอื่นได้ ตัวอย่างเช่น Google Translate แต่อาจจะเป็นไม่ถูกต้องทั้งหมด นักแปลจึงจะทำการตรวจเช็คและขัดเกลาการแปลให้ถูกต้องอีกครั้ง

    • ซอฟต์แวร์จัดตำแหน่งข้อความ (Text Alignment Software) ซอฟต์แวร์นี้สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้นักแปลจัดตำแหน่งข้อความเป็นแนวเดียวกันในสองภาษา 

  5. ความรู้ภาษาขั้นสูง
    นักแปลต้องเข้าใจเนื้อหาที่จะแปลทั้งหมด มิฉะนั้นจะไม่สามารถแปลได้ เพราะเสี่ยงที่จะตีความข้อความนั้นผิดหรือแปลไม่ถูกต้องทั้งหมด ดังนั้นนักแปลที่ดีต้องเข้าใจความหมายทั้งหมด โดยปกติแล้วนักแปลควรจะมีความรู้ความเข้าใจในงานที่แปลในระดับสูงใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา

  6. ความเข้าใจในการอ่าน
    ทักษะความเข้าใจในการอ่านที่ดีในหลายภาษาสามารถส่งเสริมทักษะการเขียนและการสื่อสารด้วย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้นักแปลทำการแปลงานได้เป็นธรรมชาติ สิ่งสำคัญที่ควรตระหนัก คือ การอ่านข้อความและการทำความเข้าใจเป็นทักษะที่แตกต่างกัน นักแปลสามารถสร้างทักษะความเข้าใจของตนเองได้ตามการสั่งสมประสบการณ์

  7. ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์
    นักแปลมักใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์หลายโปรแกรมเพื่อช่วยในการแปลและจัดระเบียบ โดยส่วนใหญ่โปรแกรมที่ช่วยในการแปลมีดังนี้

    • Microsoft Word : โปรแกรมนี้มีเครื่องมือบริการแปลภาษาในตัว ช่วยในการตรวจคำที่พิมพ์ผิด

    • Microsoft Excel : ช่วยให้นักแปลจัดระเบียบข้อมูลและมีเครื่องมือบริการแปลภาษาในตัว

    • Adobe InDesign : นักแปลสามารถใช้ซอฟต์แวร์เผยแพร่บนเดสก์ท็อปเพื่อแปลคำในภาพประกอบและนำเสนองานแปลที่เป็นลายลักษณ์อักษร

  8. ใส่ใจในรายละเอียด
    ทักษะนี้ช่วยให้งานแปลมีความถูกต้องแม่นยำ ซึ่งมีความสำคัญต่อการแปลที่มีประสิทธิภาพ เพราะข้อผิดพลาดเล็กน้อยอาจมีทำให้เกิดความเสียหายในงานแปล ดังนั้นนักแปลจึงต้องใส่ใจในรายละเอียดอย่างสม่ำเสมอ

  9. ความเชี่ยวชาญ
    ความเชี่ยวชาญในการแปลการสื่อสารประเภทใดประเภทหนึ่งสามารถช่วยให้นักแปลประสบความสำเร็จในงานแปลได้ ความเชี่ยวชาญพิเศษสามารถช่วยให้นักแปลเรียนรู้ความหมายของคำในบริบทเฉพาะได้ นักแปลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางส่วนใหญ่มีใบปริญญาในสาขาที่เชี่ยวชาญ โดยนักแปลมีความเชี่ยวชาญพิเศษในด้านต่อไปนี้

    ธุรกิจและการเงิน : นักแปลหลายคนพบว่าเป็นงานแปลด้านที่ทำให้อาชีพนักแปลประสบความสำเร็จในการแปลระหว่างธุรกิจที่ผู้บริหารใช้ภาษาต่างกัน

    ยา : นักแปลทางการแพทย์สามารถทำงานให้กับแพทย์หรือโรงพยาบาลเพื่อสื่อสารเกี่ยวกับอาการและการรักษาระหว่างแพทย์และผู้ป่วย

    กฎหมาย : นักแปลทางกฎหมายอาจบริการแปลเอกสารทางกฎหมายหรือสื่อสารระหว่างนักกฎหมายที่พูดภาษาต่างกัน

    วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ : นักแปลที่เชี่ยวชาญในหัวข้อทางเทคนิค เช่น วิศวกรรม มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการทางวิศวกรรมที่สามารถช่วยแปลเอกสารเป็นภาษาอื่นได้

เมื่อทราบคุณสมบัติและทักษะที่นักแปลจำเป็นต้องมีกันแล้ว การที่นักแปลมืออาชีพก็ต้องมีการฝึกฝนและพัฒนาตนเองตลอดเวลา เพื่อที่จะทำให้ทำงานแปลทุกชิ้นที่ได้รับมอบหมายจากลูกค้าให้ออกมาดี หากสนใจแปลเอกสาร แปลเอกสารสำคัญ แปลเอกสารราชการ แปลเอกสารเฉพาะด้าน ติดต่อศูนย์แปลเอกสาร 108Translation ผู้มีประสบการณ์ด้านบริการแปลภาษา แปลเอกสาร รับรองเอกสาร แปลเอกสารด่วนมากกว่า 10 ปี รับรองท่านจะไม่ผิดหวัง

 

ติดต่อสอบถาม หรือ สอบถามข้อมูลได้ที่นี่

ศูนย์แปลเอกสาร และแปลภาษา 108 Translation
ให้บริการแปลเอกสารพร้อมรับรองกงสุล บริการแปลเอกสารด่วน 

บริการแปลภาษา นานาชาติ จัดหาล่ามแปลภาษา นานาชาติ

โทรศัพท์ : 02-001-1549

แฟกซ์ : 02-001-5283

โทรศัพท์มือถือ : 063-271-7591

อีเมล : 108translations@gmail.com

เว็บไซต์ : http://www.108translation.com

LINE : @108Translations

 

Visitors: 529,870